อธิษฐานจิต เริ่มชีวิตใหม
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เจ้าคณะภาค ๒ เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส

*****************

         เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่คนเราต้อนรับชีวิตใหม่ในปีใหม่และอำลาชีวิตเก่าในปีเก่า นี่เป็นเรื่องของจิตใจที่ให้ความสำคัญแก่ปีเก่าปีใหม่ เรากำหนดเดือนธันวาคมที่สิ้นสุดลงไปนั้นว่าเป็นการสิ้นปีเก่า และการเริ่มเดือนมกราคมเป็นปีใหม่  แต่ละคนมีความคิดว่า  ชีวิตในปีใหม่น่าจะดีกว่าชีวิตในปีเก่า 
         คนทั่วโลกถือว่า ปีใหม่เริ่มต้นในเดือนมกราคม ภาษาอังกฤษเรียกเดือนมกราคมว่า Januaryโดยถือคติตามตำนานของเทพเจ้าโรมัน ที่ชื่อว่า Janus (เจนัส)  ชื่อของเทพเจ้าเจนัสนี้เป็นที่มาของคำว่าJanuary (มกราคม)ในภาษาอังกฤษ 
เจนัสเป็นเทพเจ้าโรมันที่มีใบหน้าสองหน้าซึ่งมองในทิศทางที่ตรงกันข้าม ใบหน้าด้านหนึ่งมองไปข้างหน้าคือมองอนาคต  อีกใบหน้าหนึ่งมองไปข้างหลังคือมองอดีต


          พอถึงวันขึ้นปีใหม่ คนเรากำลังยืนอยู่ระหว่างปีเก่าต่อกับปีใหม่  คือวันที่  ๓๑   ธันวาคมเป็นปีเก่า ส่วนวันที่  ๑   มกราคมเป็นปีใหม่  เราต้องมองสองด้านเหมือนเทพเจ้าเจนัส คือเหลียวหลังแลหน้าไปพร้อมกัน ด้านหนึ่งเราหันกลับไปดูอดีตซึ่งอยู่ข้างหลัง  และอีกด้านหนึ่งเรามองไปในอนาคตข้างหน้า  สิ่งที่ควรทำในช่วงปีใหม่นี้ก็คือ มองไปข้างหน้าด้วยความหวัง มองกลับข้างหลังด้วยความภูมิใจ

         เมื่อมองย้อนไปในปีเก่า เราพบว่าชีวิตเรามีอะไรที่น่าพอใจ เราก็เกิดความภาคภูมิใจและเก็บไว้ในความทรงจำ  จากนั้นให้นำเอาความทรงจำที่ดีในปีเก่าติดตามไปทำซ้ำในปีใหม่ด้วย  อะไรที่เป็นความไม่ดีในปีเก่า เราจะไม่นำติดตัวไปสู่ปีใหม่ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้สามารถกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตด้วยการอธิษฐานจิตว่า เราจะทิ้งความไม่ดีไว้กับปีเก่า  และจะนำเอาความดีไปเริ่มชีวิตใหม่ในปีใหม่

         ปีใหม่เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีถ้าเพียงแต่เรารู้จักตั้งจิตอธิษฐานว่า  ปีใหม่ต้องดีกว่าปีเก่า  การอธิษฐานก็คือการสำรวมใจคิดถึงเป้าหมายใหม่ที่พึงประสงค์ในปีใหม่ และหวังใจว่าเราจะไปให้ถึงเป้าหมายนั้น เรา ฝันให้ไกล  ไปให้ถึง 
         ในช่วงปีใหม่คนเรามักจะตั้งจิตอธิษฐานอย่างนี้ คำอธิษฐานจะเป็นจริงต่อเมื่อเราทำบุญประกอบด้วย นั่นคือ เราต้องทำบุญและตั้งจิตอธิษฐานไปพร้อมกัน  พลังบุญกุศลจะจัดสรรให้สำเร็จสมตามที่ตั้งจิตอธิษฐาน
         ในคติทางพระพุทธศาสนา เวลาอธิษฐานขอพรใดก็ตาม  ต้องทำบุญประกอบด้วยเสมอ เพื่อให้พลังบุญหนุนส่งให้สำเร็จตามที่เราตั้งจิตอธิษฐานไว้ นี่คือการเริ่มต้นที่ดีเท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนความสำเร็จอีกครึ่งหนึ่งมาจากความพยายามทำตามคำอธิษฐานนั้น 
         ความสำเร็จเกิดจากความพยายามของมนุษย์ก็จริง แต่สถานการณ์ก็ต้องเป็นใจด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ”
         วีรบุรุษไม่ได้สร้างสถานการณ์ แต่สถานการณ์ต้องการความเก่งของคนบางคนและเขาออกไปแสดงฝีมือในสถานการณ์นั้นพอดี เขาจึงกลายเป็นวีรบุรุษ
         บางคนเป็นคนดีมีฝีมือ แต่สถานการณ์ไม่เป็นใจ เขาก็ไม่ได้เป็นวีรบุรุษ แต่กลายเป็นคนดีที่โลกไม่ต้องการ 
         ความสำเร็จของชีวิตจึงต้องอาศัยองค์ประกอบ ๓ ประการ ดังนี้
       ๑. ปฏิรูปเทศวาสะ อยู่ในสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยให้เราได้แสดงฝีมือ
       ๒. อัตตสัมมาปณิธ เราดำเนินชีวิตดีมีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะเปล่งประกายเมื่อสถานการณ์เป็นใจ
       ๓. ปุพเพกตปุญญตา หมั่นทำบุญไว้สม่ำเสมอ พลังบุญก็จะจัดสรรให้สถานการณ์เป็นใจ ดังคำกล่าวที่ว่า “ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์  ยามบุญลงหงสาเป็นกาไก่”

         ดังนั้น เวลาที่เราทำบุญต้องตั้งจิตอธิษฐานเสมอเพื่อให้สถานการณ์เป็นใจเหมือนกรณีของพระสุเมธดาบสที่ได้ทำบุญใหญ่ คือสร้างทางถวายพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร แต่พระดาบสก็ทำทางเสร็จ ไม่ทันการมาถึงของพระพุทธเจ้า  พระดาบสจึงได้สละเอาตัวเองนอนทอดเป็นสะพานให้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นได้เหยียบข้ามพ้นโคลนตมไป 

          เมื่อได้ทำบุญใหญ่ขนาดนี้ พระสุเมธดาบสได้ตั้งจิตอธิษฐานขอเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมือนพระพุทธเจ้าทีปังกรพระองค์นั้น  จากนั้นก็ตั้งใจบำเพ็ญบารมีต่อเนื่องมาอีกนับชาติไม่ถ้วนจนได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า มีพระนามว่า สิทธัตถะ โคตมะ นั่นคือพระพุทธเจ้าของเรานั่นเอง 
          อย่าลืมหาเวลาไปทำบุญไหว้พระในวันปีใหม่  เมื่อทำบุญแล้วก็อย่าลืมตั้งจิตอธิษฐานขอพร บางคนสงสัยว่าจะอธิษฐานขอพรปีใหม่ในเรื่องอะไรดี
          เคยมีคนทำวิจัยเรื่องคำอธิษฐานขอพรปีใหม่แล้วพบว่า คำอธิษฐานยอดนิยมของคนเราแบ่งเป็น ๓ ประเภทก็คือ ละความชั่ว ทำความดี มีความสำเร็จ
          คนที่อธิษฐานละความชั่วส่วนใหญ่ต้องการเลิกละนิสัยที่ไม่ดีของตน เช่น ลดน้ำหนัก เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุรา เลิกเล่นการพนัน รวมทั้งเลิกเป็นหนี้สิน นั่นคือเลิกนิสัยที่ไม่ดีของตน ดังภาษิตอุทานธรรมที่ว่า

                ปิ้งปลาหมอง้อแล้วกลับนี้คำขำ 
                เจ็บแล้วจำใส่กระบาลนี่ขานไข 
                ผิดแล้วแก้กลับตัวเปลี่ยนหัวใจ 
                จะมีใคร มาวอนไม่สอนตน 

          เพราะฉะนั้น  ปีใหม่จึงเป็นวาระที่เราจะอธิษฐานให้กลับจิต กลับใจ กลับกาย กลับตัว  กลับหางกลับหัว  กลับชั่วให้เป็นดี  เลิกละสิ่งที่ไม่ดี  แล้วเริ่มทำความดี  ถ้าเคยขัดแย้งกันทะเลาะกันเพราะสีต่างกัน  ก็อธิษฐานจิตให้ลืมและให้อภัยกัน  หันกลับมารักกันเหมือนเดิม  ปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่คนเราจะลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจไว้กับปีเก่า
                ถ้าไม่มีการให้อภัยผิด
                และไม่คิดที่จะลืมซึ่งความหลัง 
                จะหาสามัคคียากลำบากจัง 
                ความผิดพลั้งย่อมมีทั่วทุกตัวคน
 
          ประโยชน์อะไรกับการส่ง ส.ค.ส. พอเป็นพิธี  แต่ไม่มีไมตรีจิตคือปรารถนาดีอย่างจริงใจ  การส่งความสุขที่แท้จริงอยู่ที่การส่งความรักและปรารถนาดีต่อกัน 

          ประการต่อมา คนที่อธิษฐานทำความดีมักจะเน้นเรื่องให้ความรักความอบอุ่นแก่ครอบครัว   คือจะให้เวลาแก่คนรักหรือแก่ครอบครัวมากขึ้น  บางคนตั้งใจจะอุทิศเวลาให้กับงานในหน้าที่หรืองานอาสาสมัครมากขึ้น บางคนอธิษฐานเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง เช่นการไปศึกษาหาความรู้หรือประสบการณ์เพิ่มเติม  ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนงานใหม่

          ประการสุดท้าย คนที่อธิษฐานขอความสำเร็จในชีวิตมักมุ่งไปที่ผลลัพธ์ เช่น ขอให้หล่อ ขอให้รวย ขอให้สวย ขอให้เก่ง ซึ่งเป็นการขอพรแบบเน้นเป้าหมายแต่ไม่พูดถึงวิธีการ คือเป็นการขอพรแบบนอนรอโชคชะตาจึงมักจะไม่สมปรารถนา เพราะขาดขั้นตอนของการลงมือทำที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั้น อย่าลืมว่า พรใดๆก็ไร้ค่า ถ้าไม่ลงมือทำ

          การตั้งจิตอธิษฐานต้องทำอย่างฉลาดจึงจะสำเร็จตามมโนปณิธานที่ตั้งไว้ นั่นคือการอธิษฐานที่ฉลาดต้องดำเนินตามขั้นตอนดังนี้
          ขั้นแรก ในการอธิษฐานจิตทุกครั้งต้องมีการทำบุญเป็นฐานรองรับเสมอ คือ ทำบุญด้วยการสวดมนต์ ถวายทาน รักษา ศีล หรือเจริญจิตภาวนาแล้วให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บำเพ็ญนี้ หรือด้วยอำนาจแห่งการกล่าวสัจวาจานี้ ขอให้สิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาจงสำเร็จโดยพลัน
          ขั้นที่สอง ในการอธิษฐานจิตนั้น  อย่าเลือกหลายเรื่องนัก   ท่านให้เลือกเรื่องที่สำคัญที่สุด  เวลาที่พระพุทธเจ้าของเราบำเพ็ญบารมีในอดีตเพื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านั้น  แต่ละชาติจะเน้นบารมีเพียงข้อเดียว  เช่นตอนที่เกิดเป็นพระเวสสันดร  ทรงเน้นเรื่องทานบารมีอย่างเดียว  ในตอนที่เกิดเป็นพระมหาชนก  ทรงเน้นเรื่องวิริยบารมีเป็นหลัก  ในตอนที่เกิดเป็นมโหสถบัณฑิต  ทรงเน้นปัญญาบารมีเป็นหลัก 
          ในปีใหม่นี้ เราจะอธิษฐานเน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ให้เลือกเฉพาะเรื่องนั้น เพื่อให้การอธิษฐานมีพลัง ท่านจึงเรียกว่าตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยการเลือกเรื่องที่จะทำเพียงเรื่องเดียว   เช่น เลิกบุหรี่ เลิกการพนัน  ลดน้ำหนัก หรือให้เวลาแก่ครอบครัว  ถ้าเราอธิษฐานมากเรื่องจนพล่าไปหมด อาจไม่สำเร็จสักเรื่องเดียว  ดังนั้นในขั้นตอนที่สองนี้ ให้เลือกอธิษฐานจิตเพียงข้อเดียว คือตั้งสัตยาธิษฐานนั่นเอง
          ขั้นที่สาม  เมื่ออธิษฐานจิตแล้วให้คิดสร้างภาพแห่งความสำเร็จ  ท่านเรียกว่าจักขุมา  นึกเห็นภาพของสิ่งที่เราอยากมีอยากเป็น  สมมุติว่าอธิษฐานลดน้ำหนักให้เรามีสุขภาพแข็งแรง เราลองนึกวาดภาพตัวเราเองในใจว่า  ถ้ามีสุขภาพแข็งแรง หน้าตาเราจะเป็นอย่างไร  การนึกเห็นภาพที่ปรารถนาชัดเจนจะทำให้ความปรารถนาแรงกล้าพอที่จะกระตุ้นความพยายาม 
          ข้อที่สี่ วิธุโร  แปลว่า จัดการให้สำเร็จตามที่เราสร้างภาพนั้น  นั่นคือต้องวางแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการแบ่งเป็นขั้นเป็นตอน  บางคนอธิษฐานไม่มีขั้นตอน เช่นอธิษฐานว่า ปีใหม่นี้ขอให้รวย  ไม่ได้บอกว่ารวยเพราะมีเงินเท่าไร การอธิษฐานควรมีขั้นตอนว่าเราจะมีเงินเท่าไรในเวลากี่เดือน ตอนกลางปี  เราจะมีเงินเก็บเท่านี้  ปลายปีจะมีเงินเก็บเท่านี้  เราจะได้ติดตามผลการอธิษฐานไปทีละ มิฉะนั้นเราจะไปไม่ถึงเป้าหมาย  เพราะเราสร้างภาพไกลเกินเอื้อม  บางทีเราจะท้อเสียก่อน  เหมือนกับการจะขึ้นบันไดหนึ่งร้อยขั้นเพื่อไปไหว้พระธาตุบนภูเขา เขาจะทำที่พักเป็นระยะ ๆ  พอถึงยี่สิบขั้นก็มีที่พักตอนหนึ่ง  เดินไปอีกยี่สิบขั้นก็มีที่พักตอนหนึ่ง  ไม่ใช่ขึ้นบันไดรวดเดียวเป็นร้อยขั้น   ไม่มีที่พักกลางทาง  คนจะขึ้นไปไม่ถึงพระธาตุ  ผู้ทำบันไดที่ฉลาดจะทำที่พักเป็นระยะ ๆ  ฉันใด ในการเดินทางไปสู่เป้าหมายก็ฉันนั้น คือต้องแบ่งซอยขั้นตอนในรายละเอียดเพื่อการประเมินผลว่าใกล้เป้าหมายเข้าไปเท่าใดแล้ว 
          ข้อที่ห้า   นิสัยสัมปันนะ  แปลว่ามีที่พึ่ง  คือเวลาตั้งจิตอธิษฐานควรมีคนอื่นเป็นสักขีพยาน เวลาที่พระสุเมธดาบสตั้งจิตอธิษฐาน ท่านก็มีพระทีปังกรพุทธเจ้าเป็นสักขีพยาน บางคนหาใครไมได้ก็อ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสักขีพยาน

          ถ้าเราอธิษฐานเงียบๆ ในใจ เวลาที่เราล้มเลิกคำอธิษฐานจะไม่มีใครทัดทาน แต่ถ้าเราอธิษฐานแล้วบอกให้คนข้างเคียงได้รับรู้ด้วย  บางทีการปฏิบัติตามคำอธิษฐานจะง่ายขึ้นเพราะมีคนคอยกำกับ  เช่น เราอธิษฐานเรื่องลดน้ำหนักแล้วบอกให้แม่ครัวหรือพ่อครัวที่บ้านรับรู้  เวลาปรุงอาหารเขาจะได้ปรุงอาหารสุขภาพให้เรา  เวลาที่เราละเมิดคำอธิษฐาน เขาจะคอยเตือนเรา  การช่วยเตือนนี้แหละเป็นระบบกัลยาณมิตรที่มีคนอื่นเป็นที่พึ่ง  เหมือนการเดินทางไกลก็จะต้องมีเพื่อนร่วมทาง  การอธิษฐานเพื่อให้สำเร็จตามปรารถนาต้องมีเพื่อนร่วมอธิษฐาน  เหมือนการออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกายคนเดียวอาจจะเหนื่อยและเบื่อง่าย  แต่ถ้ามีคนอธิษฐานร่วมกันไปออกกำลังกายด้วยกัน  ต่างจะช่วยกันกระตุ้นให้ออกกำลังกาย  สมาชิกในบ้านเดียวกันเช่น  พ่อ  แม่  ลูก  ควรจะอธิษฐานร่วมกันว่า  ปีใหม่นี้จะดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน  พ่อแม่จะดีต่อลูก  ลูกจะดีต่อพ่อแม่  สนับสนุนกันและกันให้ทำดีต่อกัน  นี่เรียกว่ามีคนอื่นเป็นที่พึ่งในการอธิษฐานจิต 

          พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  จะเสด็จฯประพาสยุโรป ในปี ๒๔๔๐ พระองค์ทรงอธิษฐานต่อหน้ามหาสมาคม  ณ  พระที่นั่งไพศาลทักษิณ  ด้วยการประกาศให้ทราบทั่วกันต่อหน้าพระสงฆ์ เจ้านาย และเสนาบดีทั้งหลาย ว่า 
          ๑. ในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งนี้  จะไม่น้อมใจไปในศาสดาอื่น  จะนับถือแต่พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์ 
          ๒. ในการเดินทางไกลไปยุโรปซึ่งใช้เวลาหลายเดือน  จะไม่ร่วมประเวณีด้วยสตรีอื่นใดเลย 
          ๓. ในต่างประเทศ การให้สุราแล้วไม่ดื่ม จะเป็นการเสียกริยา ก็จะดื่มนิดหน่อยเพื่อสังคม  แต่ไม่ยอมมึนเมาเสียสติเด็จขาด 

          นี่คือตัวอย่างของการอธิษฐานเสียงดังเพื่อให้คนอื่นเป็นสักขีพยานและช่วยประกันความสำเร็จของคำอธิษฐาน เพราะฉะนั้น  เรามาอธิษฐานร่วมกันให้คนอื่นได้ยินว่า ปีใหม่นี้เราจะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ร่วมกัน เราจะทำงานทุ่มเทให้กับหน่วยงานของเรา  เราจะไม่ทุจริตคอรัปชั่น ดังนี้เป็นต้น  ทุกคนได้ยินคำอธิษฐานแล้วจะได้ช่วยกันเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติการผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคไปได้           คำอธิษฐานของเราจะไม่เป็นแต่เพียงความคิดลอยๆ 
          คำอธิษฐานที่ไม่มีการกระทำเป็นแต่เพียงฝันกลางวัน  ส่วนการลงมือทำโดยไม่มีการอธิษฐานก็ขาดทิศทางและสะเปะสะปะเพราะว่าเปลี่ยนไปมาอยู่เรื่อย
           ปีใหม่นี้ ขอให้ตั้งจิตอธิษฐานโดยเลือกเป้าหมายเพียงอย่างเดียวว่าเราอยากได้ไม่สะเปะสะปะ  เมื่ออธิษฐานแล้วลงมือกระทำอย่าให้เป็นฝันกลางวัน  ชีวิตเราก็จะมีอะไรใหม่สมกับปีใหม่
          เมื่อปีใหม่มาถึงครั้งนี้ อย่าให้โอกาสดีนี้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรดี ๆ ให้กับชีวิต  ตั้งใจทำบุญด้วยการให้ทาน  รักษาศีลหรือเจริญจิตภาวนาดีแล้ว  อธิษฐานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือต่อหน้าคนที่เรารักเป็นสักขีพยาน เพื่อให้สำเร็จดังที่ตั้งจิตอธิษฐานเป็นแน่นอน 

          ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศลที่บำเพ็ญมาจงปกปักรักษาคุ้มครองให้สิ่งที่ตั้งจิตอธิษฐานนั้น  จงสำเร็จดังที่ตั้งความปรารถนา  โดยปราศจากทุกข์  โศก  โรค  ภัย  อุปัทวันตรายทั้งปวง  ขอให้ชีวิตที่มีแต่ความเจริญงอกงามไพบูลย์ในร่มธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใดที่ชอบประกอบด้วยธรรม  ก็ขอให้ความปรารถนานั้น ๆ  จงพลันสำเร็จ  สมมโนรถมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ  ตลอดปีใหม่ และตลอดไปเทอญ ...